Winnie The Pooh Glitter Winnie The Pooh Glitter

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

โทรทัศน์ครู วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558


สรุปโทรทัศน์ครู






รายการครูมืออาชีพ

ชุดรายการ : คณิตในชีวิตประจำวัน 
ตอน Making Maths Real : สอนคณิตให้มีชีวิตชีวา ตอน 1

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สอนอย่างไรให้สนุกและมีชีวิตชีวา เริ่มที่ประเทศอังกฤษ ในการสอนวิชาคณิตศาสตร์แก่เด็ก ๆ จะแสดงให้เห็นถึงวิธีการสอนคณิตศาสตร์ของพ­วกเขา ที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ชั้นปฐมวัยและประถมศึกษา
มีขั้นตอนการสอนคือ

1.ครูใกล้ชิดกับเด็กๆ ทุ่มเททั้งเวลา และเอาใจใส่ ค้นหาว่าเด็กสนใจอะไร
2.จากนั้นก็นำมาวางแผนการสอนซึ่งเด็กจะชอบมากเมื่อรู้ว่าสามรถนำสิ่งที่ตนเองชอบมาช่วยในการเรียนได้
3.ก่อนจะเริ่มบทเรียน คุณครูจะให้เด็กๆอบอุ่นร่างกาย เคลื่อนไหวไปมา ปรบมือ ร้องเพลง เพื่อเป็นการกระตุ้นเด็กให้เด็กเกิดความอยากเรียน
4.ก่อนจะเข้าเนื้อหาหลักคุณครูให้นักเรียนทำเกี่ยวกับตัวเลข เช่นทำมือเป็นเครื่องหมาย บวก ลบ เท่ากับ และยกนิ้วตามจำนวน
5.ทำให้เด็กเกิดความสนุก เพื่อให้เด็กอยากจะเรียน
6. ครูให้นักเรียนทุกคนลงมือทำ เพื่อฝึกให้นักเรียนให้เข้าใจ และคำนวณคล่องขึ้น


           

บันทึกอนุทินครั้งที่3 วันศุกร์ที่ 23 เดือน มกราคม พ.ศ. 2558


บันทึกอนุทิน





ความรู้ที่ได้รับ



ความหมายของพัฒนาการ

นักวิชาการหลายท่านให้ความหมายของคำว่าพัฒนาการ ดังนี้
  • สุชา จันทร์เอม (2540 : 1) กล่าวว่าพัฒนาการ หมายถึง ลำดับของการเปลี่ยนแปลงหรือกระบวนการเปลี่ยนแปลง (process of change) ของมนุษย์ทุกส่วนที่ต่อเนื่องกันไปในระยะเวลาหนึ่ง ๆ ตั้งแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต การเปลี่ยนแปลงนี้จะก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ เป็นขั้น ๆ จากระยะหนึ่งไปสู่อีกระยะหนึ่งเพื่อที่จะไปสู่วุฒิภาวะ ทำให้มีลักษณะและความสามารถใหม่ ๆ เกิดขึ้น ซึ่งมีผลทำให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นตามลำดับ 
  • ทิพย์ภา เชษฐ์เชาวลิต (2541 : 1) ได้ให้คำจำกัดความของพัฒนาการว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผน มีขั้นตอน เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านเจริญเติบโตงอกงามและถดถอย และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลรวมของวุฒิภาวะและประสบการณ์ 
  • ศรีเรือน แก้วกังวาล (2540 : 21) กล่าวว่าพัฒนาการเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องทั้งที่สังเกตได้ง่าย ชัดเจน และมองเห็นได้ยาก ไม่ชัดเจน ตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
จากความหมายดังกล่าวสรุปได้ว่า พัฒนาการเป็นกระบวนการพัฒนาของมนุษย์ในทุก ๆ ด้านของชีวิตตั้งแต่จุดเริ่มต้นของชีวิตจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่องทั้งในลักษณะของการเจริญงอกงามและการถดถอย ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ได้รับ ซึ่งนำไปสู่ความมีวุฒิภาวะ


ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก




ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์



เพียเจต์ (Piaget) ได้ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการอย่างไร ทฤษฎีของเพียเจต์ตั้งอยู่บนรากฐานของทั้งองค์ประกอบที่เป็นพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เขาอธิบายว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญา ซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่า สามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เพียเจต์เน้นความสำคัญของการเข้าใจธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กมากกว่าการกระตุ้นเด็กให้มีพัฒนาการเร็วขึ้น เพียเจต์สรุปว่า พัฒนาการของเด็กสามารถอธิบายได้โดยลำดับระยะพัฒนาทางชีววิทยาที่คงที่ แสดงให้ปรากฏโดยปฏิสัมพันธ์ของเด็กกับสิ่งแวดล้อม 



ทฤษฎีการเรียนรู้ 

พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น ดังนี้

1.ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori-Motor Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ เช่น การไขว่คว้า การเคลื่อนไหว การมอง การดู ในวัยนี้เด็กแสดงออกทางด้านร่างกายให้เห็นว่ามีสติปัญญาด้วยการกระทำ เด็กสามารถแก้ปัญหาได้ แม้ว่าจะไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด

2.ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี แบ่งออกเป็นขั้นย่อยอีก 2 ขั้น คือ 
-- ขั้นก่อนเกิดสังกัป (Preconceptual Thought) เป็นขั้นพัฒนาการของเด็กอายุ 2-4 ปี เป็นช่วงที่เด็กเริ่มมีเหตุผลเบื้องต้น สามารถจะโยงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ หรือมากกว่ามาเป็นเหตุผลเกี่ยวโยงซึ่งกันและกัน แต่เหตุผลของเด็กวัยนี้ยังมีขอบเขตจำกัดอยู่ เพราะเด็กยังคงยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง 
-- ขั้นการคิดแบบญาณหยั่งรู้ นึกออกเองโดยไม่ใช้เหตุผล (Intuitive Thought) เป็นขั้นพัฒนาการของเด็ก อายุ 4-7 ปี ขั้นนี้เด็กจะเกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รวมตัวดีขึ้น รู้จักแยกประเภทและแยกชิ้นส่วนของวัตถุ เข้าใจความหมายของจำนวนเลข เริ่มมีพัฒนาการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ แต่ไม่แจ่มชัดนัก 

3.ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage) ขั้นนี้จะเริ่มจากอายุ 7-11 ปี พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้สามารถสร้างกฎเกณฑ์และตั้งเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ เด็กวัยนี้สามารถที่จะเข้าใจเหตุผล รู้จักการแก้ปัญหาสิ่งต่างๆ ที่เป็นรูปธรรมได้ 

4.ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage) นี้จะเริ่มจากอายุ 11-15 ปี ในขั้นนี้พัฒนาการทางสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้เป็นขั้นสุดยอด คือเด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่ ความคิดแบบเด็กจะสิ้นสุดลง 







ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ 

บรุนเนอร์ (Bruner) เป็นนักจิตวิทยาที่สนใจและศึกษาเรื่องของพัฒนาการทางสติปัญญาต่อเนื่องจากเพียเจต์ บรุนเนอร์เชื่อว่ามนุษย์เลือกที่จะรับรู้สิ่งที่ตนเองสนใจและการเรียนรู้เกิดจากกระบวนการค้นพบด้วยตัวเอง (discovery learning) แนวคิดที่สำคัญ ๆ ของ 

บรุนเนอร์ มีดังนี้ (Brunner,1963:1-54) 

ทฤษฎีการเรียนรู้ 

1) การจัดโครงสร้างของความรู้ให้มีความสัมพันธ์ และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก 
2) การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้เรียน และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนจะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพ 
3) การคิดแบบหยั่งรู้ (intuition) เป็นการคิดหาเหตุผลอย่างอิสระที่สามารถช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 
4) แรงจูงใจภายในเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ 
5) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของมนุษย์แบ่งได้เป็น 3 ขั้นใหญ่ ๆ คือ

  1. ขั้นการเรียนรู้จากการกระทำ (Enactive Stage) คือ ขั้นของการเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ การลงมือกระทำช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ดี การเรียนรู้เกิดจากการกระทำ
  2. ขั้นการเรียนรู้จากความคิด (Iconic Stage) เป็นขั้นที่เด็กสามารถสร้างมโนภาพในใจได้ และสามารถเรียนรู้จากภาพแทนของจริงได้
  3. ขั้นการเรียนรู้สัญลักษณ์และนามธรรม (Symbolic Stage) เป็นขั้นการเรียนรู้สิ่งที่ซับซ้อนและเป็นนามธรรมได้

6) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการที่คนเราสามารถสร้างความคิดรวบยอด หรือสามารถจัดประเภทของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 
7) การเรียนรู้ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การให้ผู้เรียนค้นพบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (discovery learning)






ทฤษฎีทางสติปัญญาของไวก็อตสกี้

     ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองเป็นทฤษฏีที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการและวิธีการของบุคคลในการสร้างความรู้ความเข้าใจจากประสบการณ์ รวมทั้งโครงสร้างทางปัญญาและความเชื่อที่ใช้ในการแปลความหมายเหตุการณ์และสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นกระบวนการการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนผู้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพราะความรู้ไม่ใช่มาจากการสอนของครูหรือผู้สอนเพียงอย่างเดียว แต่ความรู้จะเกิดขึ้นและถูกสร้างขึ้นโดยผู้เรียนเองและการเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ดีก็ต่อเมื่อผู้เรียนได้ลงมือกระทำด้วยตนเอง (Learning by doing) นอกจากกระบวนการเรียนรู้จะเป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ภายในสมองแล้ว ยังเป็นกระบวนการทางสังคมด้วย การสร้างความรู้จึงเป็นกระบวนการทั้งด้านสติปัญญาและสังคมควบคู่กันไป

การเรียนรู้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยไม่มีที่สิ้นสุด

ประโยชน์ของการเรียนรู้
     เพื่อให้อยู่รอด ช่วยเหลือตนเองได้ทุกๆสถานการณ์

เด็กปฐมวัยมีการเรียนรู้อย่างไร?
     เด็กปฐมวัยเรียนรู้ผ่านการเล่น การได้ลงมือกระทำ การมองเห็น การสัมผัส

ประโชน์ในการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
      การเล่นจะทำให้เด็กไม่เบื่อ เขาไม่รู้เลยว่าการที่เขาเล่นนั้นแหล่ะ มันคือการเรียนรู้






วิธีการสอน

-มีแบบฝึกหัดให้ทำก่อนเรียน
-ใช้เทคโนโลยีมาเป็นสื่อในการสอน




การประยุกต์ใช้
     นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสมและรอบด้าน




บรรยากาศในห้องเรียน
     โต๊ะเก้าอี้จัดว่างอย่างเป็นระเบียบ พื้นสะอาด วัสดุอุปกรณ์ในการเรียนการสอนครบ 



ประเมิน


ตนเอง=ตั้งใจเรียน ตั้งใจฟังอาจารย์สอน  เข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอน

เพื่อน=ตั้งใจเรียน ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามอาจารย์

ครูผู้สอน= พูดเสียงดังฟังชัด สั่งงานชัดเจน สอนให้เข้าใจง่าย









วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

สรุปวิจัย วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558








สรุปงานวิจัย


ชื่องานวิจัย  : การส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยการเล่านิทานคณิต
ชื่อผู้วิจัย      : ขวัญนุช  บุญยู่ฮง(2545) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ


            เด็กมีความสนใจและร่วมมือในการจัดกิจกรรมเป็นอย่างดีจึงทำให้เด็กได้รับข้อมูลเกี่ยวกับทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ทั้ง 6 ด้านที่สอดแทรกมากับนิทานที่เล่าและระหว่างการเล่าจะถามคำถามตามจุดประสงค์ของนิทานแต่ละเรื่อง ทำให้เด็กได้คิดและตอบคำถามเกี่ยวกับการนับ การรู้ค่าตัวเลข การจับคู่การจัดประเภท การเปรียบเทียบและการเรียงลำดับตามสิ่งต่างๆที่ปรากฎอยู่ในนิทานอยู่เสมอ เด็กจึกเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง จากการกระทำ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัยเเละพัฒนาการของเด็ก













สรุปบทความ วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558






                                            เด็กปฐมวัยเรียนรู้อะไรในคณิตศาสตร์                                                                            


             การเรียนรู้คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย มุ่งหวังให้เด็กทุกคนได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทางคณิตศาสตร์อันเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ระดับประมศึกษา โดยกำหนดสาระหลักที่จำเป็นสำหรับเด็ก ได้แก่ จำนวนและการดำเนินการ จำนวน การรวมกลุ่ม และการแยกกลุ่ม การวัด ความยาว น้ำหนัก ปริมาตร เงินและเวลา เราขาคณิต ตำแหน่ง ทิศทาง ระยะทาง รูปเลขาคณิตสามมิติและรูปเลขาคณิตสองมิติ พีชคณิต แบบรูปและความสัมพันธ์ การวิเคราะห์ ข้อมูลและความน่าจะเป็น การเก็บรวบรวมข้อมูลและการนำเสนอ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์และ เชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่นๆ และมีความคิดสร้างสรรค์  ตรงตามสาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปฐมวัย


















วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทินครั้งที่2 วันศุกร์ที่ 16 เดือน มกราคม พ.ศ. 2558

วันศุกร์  ที่ 16   มกราคม   พ.ศ. 2558



บันทึกอนุทิน





ความรู้ที่ได้รับ


ความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์


1.ความหมายของคณิตศาสตร์

คณิตศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่มุ่งค้นคว้าเกี่ยวกับ โครงสร้างนามธรรมที่ถูกกำหนดขึ้นผ่านทางกลุ่มของสัจพจน์ซึ่งมีการให้เหตุผลที่แน่นอนโดยใช้ตรรกศาสตร์สัญลักษณ์ และสัญกรณ์คณิตศาสตร์ เรามักนิยามโดยทั่วไปว่าคณิตศาสตร์เป็นสาขาวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับ ปริมาณ(จำนวนโครงสร้าง ปริภูมิ และ การเปลี่ยนแปลง

2.ความสำคัญของคณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์ทำให้มนุษย์มีความคิด สร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ ระเบียบ มีแบบแผน  สามารถวิเคราะปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ทำให้สามารถคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการณ์ศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ตลอดจนศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตและช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น  นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังช่วยพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์มีความสมดุลทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และอารมณ์       สามารถคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

3.ประโยชน์ของคณิตศาสตร์

1. ความสำคัญในชีวิตประจำวัน ในชีวิตประจำวันของคนเราทุกคนต้องใช้คณิตศาสตร์และเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์อยู่เสมอจนบางครั้งยังไม่ทันนึกว่าเราต้องใช้คณิตศาสตร์อยู่ อาทิเช่น ในการดูเวลา การซื้อขาย การชั่ง การตวง การวัด ระยะทางและการติดต่อสื่อสาร การกำหนดรายรับรายจ่ายในครอบครัว หรือแม้แต่การเล่นกีฬา เป็นต้น
2. ประโยชน์ในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าความรู้ทางคณิตศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมและธุรกิจผู้เป็นนักธุรกิจต้องใช้ความรู้และหลักการทางคณิตศาสตร์ช่วยคิดคำนวณผลิตผล คิดต้นทุนกำไร และการใช้การพยากรณ์แนวโน้มของการตลาด การกำหนดเวลา การกำหนดราคาขาย กำไร เป็นต้น นอกจากนี้การประกอบอาชีพรับราชการก็จำเป็นจะต้องอาศัยคณิตศาสตร์ช่วยในการวางแผนการปฏิบัติงานด้วย
3. ช่วยปลูกฝังและอบรมให้เป็นคนที่มีคุณสมบัติ นิสัย เจตคติ และความหมายทางสมองบางประการ เช่น ความเป็นผู้มีเหตุผล มีนิสัยละเอียด สุขุมรอบคอบมีปฏิภาณไหวพริบ เป็นต้น

4.แนวคิดพื้นฐานทางคณิตศาสตร์










ทักษะ


                                     

ตัวแทนนักศึกษานำเสอน บทความเกี่ยวกับ คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย และอาจารย์คอยให้คำแนะนำและอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักศึกษาเข้าใจยิ่งขึ้น
  



                                   




อาจารย์ให้นักศึกษา แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน โดยทุกกลุ่มจะได้ เนื้อหาทางคณิตศาสตร์กลุ่มละ 4 หัวข้อ
และแบ่งหัวข้อให้สมาชิกในกลุ่มคนละ 1 หัวข้อ เพื่อทำการสรุปเนื้อหาที่ตนเองได้รับ จากนั้นให้นักศึกษาจับกลุ่มใหม่ โดยใหันักศึกษาที่ได้หัวข้อเดียวกันอยู่กลุ่มเดียวกัน และร่วมกันสรุปเนื้อหาเดิมให้ดียิ่งขึ้น จากนั้นให้นักศึกษากลับไปรวมกลุ่มเดิม และนำหัวข้อทั้ง4 หัวข้อมาร่วมกันสรุปภายในกลุ่ม










วิธีการสอน



อาจารย์ให้นักศึกษานำเสนอบทความเกี่ยวกับ คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย และอาจารย์คอยให้คำแนะนำและอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักศึกษาเข้าใจยิ่งขึ้น และให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมเกี่ยวกับคณิตศาสตร์





การประยุกช์ใช้


ผู้สอน
     1. ส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ในช่วงวัยแรกของเด็กและสัมพันธ์กับชีวิตประจำวัน
     3. จัดกิจกรรมโดยเน้นให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง
     4. จัดบรรยากาศในห้องเรียนให้ผ่อนคลาย ไม่เคร่งเครียด ให้เด็กมีอารมณ์ จิตใจที่ดี






ประเมิน


สภาพห้องเรียน
พื้นที่ในการทำกิจกรรมไม่พร้อม เนื่องจากนักศึกษาต้องนั่งทำกิจกรรมเป็นกลุ่มโดยการนั่งบนเก้าอี้และหันหน้าเข้าหากัน และเมื่อมีการจับกลุ่มใหม่ จึงยากต่อการเดิน และจัดที่นั่งใหม่

ตนเอง
ตั้งใจฟังเรื่องที่อาจารย์อธิบาย ตั้งใจทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ และมีสมาธิระหว่างเรียน

เพื่อน
ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานที่ตนเองได้รับ และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมอย่างดี

อาจารย์


อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่นักศึกษาได้นำเสนอบทความที่เกียวกับคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้อย่างละเอียดและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น  พูดเสียงดัง อธิบายเนื้อหาและกิจกรรมอย่างกระชับ และเข้าใจง่าย 




วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทิน ครั้งที่1 วันศุกร์ที่ 9 เดือน มกราคม พ.ศ. 2558


บันทึกครั้งที่ 1  วันศุกร์  ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558



บันทึกอนุทิน




ความรู้ที่ได้รับ

อาจารย์แนะนำรายละเอียดของรายวิชาการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ให้นักศึกษาใช้ความรู้เดิมเขียนแผนที่ทางความคิดในหัวข้อการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
พัฒนาการของเด็กปฐมวัยมี 4 ด้าน
      1. ด้านร่างกาย
      2.ด้านอารมณ์ จิตใจ
      3.ด้านสังคม
      4.ด้านสติปัญญา
กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ(มคอ.)
สกอ ได้กำหนดไว้ 6 ด้าน ดังนี้
      1.ด้านคุณธรรม จริยธรรม
      2.ด้านความรู้
      3.ด้านสังคม
      4.ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และความรับผิดชอบ
      5.ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
      6.ด้านทักษะพิสัย
มาตรฐาน = เกณฑ์ขั้นต่ำ
สพท. ย่อมาจาก  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
สกอ.  ย่อมาจาก  สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
สพฐ. ย่อมาจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สพป. ย่อมาจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สพม. ย่อมาจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา








ทักษะ




เขียนแผนความคิด เรื่องการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย โดยอาศัยความรู้เดิมในการเขียนแยกออกเป็น 4 หัวข้อหลัก คือ การจัด ประสบการณ์ คณิตศาสตร์ และเด็กปฐมวัย








วิธีการสอน


อาจารย์ใช้การประเมินความรู้ก่อนเรียนโดยให้นักศึกษาใช้ความรู้เดิมเขียนแผนแสดงความคิดเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย และมีการใช้คำถามเพื่อให้นักศึกษาได้ใช้ความคิดและอธิบายคำตอบที่ถูกต้อง






การประยุกช์ใช้

ผู้สอน
     1. ควรจัดกิจกรรมให้มีความหลากหลายอย่างสม่ำเสมอ
     2. กิจกรรมที่จัดควรส่งเสริมพัฒนาการเด็กทั้ง 4 ด้าน แบบองค์รวม

ตนเอง
     1. จดบันทึกย่อในรูปแบบแผนภูมิต้นไม้ หรือแผนภูมิความคิด
     2. แต่งกายเรียบร้อย เหมาะสมตามกฎระเบียบและเข้าเรียนตรงเวลา
     3. แสวงหาความรู้อยู่เสมอ
     4. วางแผนและจัดทำตารางกิจวัตรประจำวัน



ประเมิน

สภาพห้องเรียน
อุปกรณ์ด้านเทนโนโลยีไม่พร้อม คือ โปรเจคเตอร์ไม่สามรถใช้งานได้

ตนเอง
ตั้งใจฟังเรื่องที่อาจารย์อธิบาย ตอบคำถามที่อาจารย์ถาม และมีสมาธิระหว่างเรียน

เพื่อน
ตั้งใจเรียน ตอบคำถามอาจารย์ มีการพูดคุยกันบ้างเล็กน้อย

อาจารย์
อธิบายรายละเอียดต่างๆอย่างชัดเจน พูดเสียงดัง มีการกำหนดข้อตกลงต่างๆ เช่น เวลาเข้าเรียน เวลาส่งงาน ไว้อย่างชัดเจนพุดคุยเป็นกันเองกับนักศึกษา